วิ่งข้ามรั้วที่ฮาที่สุดในโลก

วิ่งข้ามรั้วที่ฮาที่สุดในโลก

Suicide Girls

Suicide Girls

SuicideGirl Belle and Sebastian Music Video - NSFW from SuicideGirls on Vimeo.

2NE1 - Don't Stop The Music (Yamaha 'Fiore' CF Theme Song)

2NE1 - Don't Stop The Music

โปรดใช้งานตามเงินเดือน

โปรดใช้งานตามเงินเดือน

คนโง่จะครองโลก

แทยอนแลบลิ้น

ผู้หญิงสมัยนี้....

ผู้หญิงสมัยนี้....
ดีแต่ชอปปิ้ง อยู่นิ่งก็แดก
แจกยิ้มไปทั่ว เมารั่วทุกศุกร์
ความสุขอยู่ร้านเสื้อผ้า หิ้วพราด้าปลอม
สวยพร้อมทุกเมื่อ
เบื่อเบื่อก็บีบี นั่งขี้ยังไม่ยอมวาง
สับรางขั้นเทพ ชอบเสพละครดราม่า
แต่งหน้าไปหลับที่ห้องเรียน เขียนภาษาวิบัติ
วัดแทบไม่เคยไป ใกล้ไกลก็แทกซี่

ตัดสินคนที่หน้าตา
อารมณ์แปรปรวน รักนวลสงวนนม
ชอบชมผัวคนอื่น นอนตื่นก็สาย
คบผู้ชายที่ฐานะ แม่พระตอนแรก เลือกแดกแต่ของดี
ฟรังกี้ที่ประจำ รูปดำต้องปรับแสง
ของแพงต้องต่อ บอกพ่อขอเงินค่าหนังสือ ได้มือถือใหม่มาแทน
เสียเงินเปนแสนทำหน้า มีสิวมีฝ้าถามหาถึงแพทย์
กลัวแดดมากกว่าผี ซีรีย์เกาหลีกุดูหมด
ขนาดตดยังไม่ยอมรับ เปนโรคขาดโทรศัพไม่ได้
ไม่สบายก้ไม่นอน ขอให้ได้อัพเดทสถานะอ้อนหนุ่มก่อนถึงจะนอนได้
หนุ่มคนไหนหลงเอาเป็นแฟนเมื่อไร เมิงอย่าหวังได้นอกใจ กุเอาเมิงตายแน่นอน .....

เครดิต.... nuriboy@พันทิปดอทคอม

Reflexivity

บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับแนวคิด Reflexivity ของพ่อมดการเงิน George Soros จากบล็อกคุณปลาหมึก

บทความนี้เป็นการสรุปความเข้าใจของผมต่อแนวคิดของโซรอส ซึ่งผมได้ลองถามพี่ต้าน MudleyGroup เพื่อยืนยันว่าผมเข้าใจถูกต้องหรือไม่


ปลาหมึก

คือผมสนใจความคิดของ Soros มาระยะนึงแล้ว ตอนอ่าน the new paradigm for financial market และบทความต่างๆ ผมก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่
อาจจะเพราะเป็นทั้งภาษาและเป็นแนวคิดที่ต่างจากเศรษฐศาสตร์ในตำราทั่วไปหรืออะไรก็แล้วแต่

ตอนนี้ผมคิดว่าความเข้าใจของผมน่าจะมีเพิ่มขึ้นมาบ้าง จึงอยากจะถามดูครับว่าผมเข้าใจถูกต้องรึเปล่า และเข้าใจในระดับไหน

อย่างแรกเรื่องคือ ตลาดไม่มีความสมบูรณ์แบบ เนื่องมาจากตลาดเคลื่อนไหวจาก action ของคน และคนมีการรับรู้ที่ผิดพลาดอยู่แทบจะตลอดเวลา
ใน บางกรณีเช่นความคาดหวังต่ออนาคต มันเป็นการทำนายสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่มีอะไรบ่งบอกได้แน่นอนว่าจะเกิดขึ้น เพราะสิ่งที่จะขึ้นนั้นต้องเป็นผลรวมมาจาก action ของคนทุกๆคน
ซึ่งในความเป็นจริง ไม่มีใครที่จะรู้ว่าคนทุกๆคนจะทำอะไร อาจจะมีบ้างที่มีกลุ่มคนที่มีอิทธิพลสามารถชี้นำได้ แต่ไม่ทั้งหมด

จาก การรับรู้ที่ผิดเพี้ยนส่งผลให้เกิด action ที่ผิดเพี้ยนเช่นกัน ดังนั้นตลาดจึงเกิดภาวะฟองสบู่เป็นระลอกๆ อยู่ที่ว่าจะเป็นฟองสบู่ในรอบเล็กๆเช่นระยะปี หรือรอบใหญ่ๆเช่นระยะสิบๆปี โดยฟองสบู่ที่ใหญ่เป็นการสะสมความผิดพลาดต่างๆจากเล็กๆ แต่ไม่ได้รับการแก้ไขที่ถูกต้อง มันจึงสะสมเป็นลูกใหญ่

ในระยะยาวจะ มีการปรับสมดุลอยู่ตลอดเวลา เช่นเมื่อ ราคา วิ่งหนี ปัจจัยพื้นฐานไปมากๆ จะต้องมีการปรับสมดุลเกิดขึ้น เช่นมีคนรับรู้ความจริงว่าตอนนี้ราคามันเป็นฟองสบู่แล้วก็จะเกิด action สวนทางกลับมายังพื้นฐานของมัน แต่แน่นอนว่าตลาดไม่สมบูรณ์แบบ action อาจจะแรงเกินไปทำให้ลงมาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานเนื่องจากเป็นการ action จากคนจำนวนมากที่มีทั้งรู้ข้อมูลจริงและไม่รู้ข้อมูลจริง จนเมื่อถึงเวลาหนึ่งจะมีคนรับรู้อีกว่า ราคาต่ำกว่าพื้นฐาน จะมีการ action ย้อนกลับขึ้นไปอีกครั้ง

ส่วน reflexivity ตามความเข้าใจของผมคือ
1.ตลาดสะท้อนปัจจัยและข้อมูลต่างๆออกมา (ซึ่งข้อนี้เป็นที่รับรู้ของคนทั่วไปอยู่แล้ว)
2.ตลาดมีอิทธิพลส่งผลสะท้อนกับไปยังปัจจัยและข้อมูลต่างๆด้วย

จาก ข้อ2 แปลว่าการรับรู้ของคนเรานั้น(ความคิด) เมื่อไปทำให้ตลาดเกิด action มันจะสามารถสะท้อนไปยังปัจจัยต่างๆ(ความจริง)ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามได้ แม้ว่าจะเป็นการรับรู้มาแบบถูกต้องหรือไม่ถูกต้องก็ตาม
เช่นถ้าเกิดราคา สินค้าชนิดหนึ่งสูงขึ้น มันจะส่งผลมายังผู้ที่เกี่ยวข้องกับสินค้านั้นๆอย่างไม่ต้องสงสัย ปัจจัยต่างๆจึงสามารถเปลี่ยนแปลงตามราคาได้

MudleyGroup

ใช่ เลยครับ นี่คือหัวใจพื้นฐานที่สำคัญของ Reflexivity ซึ่งคนส่วนมากจะมองแค่ข้อ1 ทั้งๆที่ข้อ 2 ก็สำคัญไม่แพ้กัน เช่นเพราะเรื่องของราคาตลาดมันสามารถสะท้อนมายังพื้นฐานของสินค้าได้เช่นกัน อย่างเช่น ในบลาซิล ตอนพี่ซื้อ-ขาย เอทานอล อยุ่ พอราคา เอทานอลมันพุ่งขึ้น จนเกิดกระแส ผู้คนในวงการเกษตรของบลาซิลต่างก็หาเหตุผลมา support การขึ้นของราคานั้น จนทำให้โรงงานเอทานอลเกิดความโลภอยากกักตุนไว้เพราะอยากได้ราคาสูงๆ สุดท้ายก็ยิ่งส่งเสริมทำให้ราคา เอทานอล ในบลาซิลตอนนั้นยิ่งสูงขึ้นไปอีก จนเกิดฟองสบู่ขึ้นมา หลังจากนี้พอมันสุดโต่งไปมากๆหลายๆคนเริ่ม Realize ก็จะทำให้เกิดการเทขาย เพราะถ้าราคามันแพงไปมากกว่านี้ก็จะมีคนไปนำเอทานอลจากประเทศอื่นเข้ามาขาย แทน ทีนี้คนก็เริ่มแห่ขาย พวกโรงงานที่กักตุนไวเริ่มตกใจกลัวว่าตนจะขายได้ราคาไม่ดี ก็พากันขนออกมาขายกันใหญ่ จนราคาในตลาดรองรับ supply ไม่ทันส่งผลให้ตลาดดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

รู้จัก Cyber Monday กันต่อ

Cyber Monday is a marketing term for the Monday immediately following Black Friday, the Friday following Thanksgiving Day in the United States. The term made its debut on November 28, 2005 in a Shop.org press release entitled "'Cyber Monday' Quickly Becoming One of the Biggest Online Shopping Days of the Year".^[1] According to the Shop.org/BizRate Research 2005 eHoliday Mood Study, "77 percent of online retailers said that their sales increased substantially last year on the Monday after Thanksgiving, a trend that is driving serious online discounts and promotions on Cyber Monday this year (2005)". In 2006, Shop.org announced^[2] that it launched the CyberMonday.com portal, a one-stop shop for Cyber Monday deals. In 2009, comScore^[3] reported that consumers spent $887M online on Cyber Monday (excluding travel), the second highest spending day of 2009. Cyber Monday is also used as a marketing term in Canada, the United Kingdom, France, Portugal and Germany. In these countries, with the exception of Canada, Cyber Monday sales last for eight days, typically from the last Monday in November to the first Monday in December. In Canada, the sales period mirrors that of the U.S.

Source: Wikipedia.com

รู้จัก Black Friday (shopping) กัน

Black Friday is the day following Thanksgiving Day in the United States, traditionally the beginning of the Christmas shopping season. Especially popular in the United States, the event is spreading to other nations such as Canada and Australia. On this day, many retailers open very early, often at 4 a.m., or earlier, and offer promotional sales to kick off the shopping season. Black Friday is not actually a holiday, but many employers give their employees the day off, increasing the number of potential shoppers. It has routinely been the busiest shopping day of the year since 2005,^[1] although news reports, which at that time were inaccurate,^[2] have described it as the busiest shopping day of the year for a much longer period of time.^[3]

The day's name originated in Philadelphia, where it originally was used to describe the heavy and disruptive pedestrian and vehicle traffic which would occur on the day after Thanksgiving. Use of the term began by 1966 and began to see broader use outside Philadelphia around 1975. Later an alternative explanation began to be offered: that "Black Friday" indicates the period during which retailers are turning a profit, or "in the black."^[4]

Because Thanksgiving always falls on the fourth Thursday in November in the United States, the day after occurs between the 23rd and the 29th of November.

Source: Wikipedia.com

ลืมฉันไปก่อน

ลืมกูไปก่อนนะ เดี๋ยวกูก็จะกลับมาใหม่ 555+

ไฟล์เพลงสำหรับเบิร์นหูฟัง

ไฟล์ Burn-in เบิร์นอิน หูฟัง ลำโพง ใช้เพื่อเปิดให้หูฟังของเราเข้าที่และทำให้เสียงดีขึ้น

http://www.cartoonikkyu.com/Download/burn_in.mp3

ประวัติการแยกเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้

วันนี้เล่นเว็ปไปเรื่อยๆ เจอประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการแยกระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ มาดูกันเลยครับ

เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยชนเผ่า(สมัยมูยุล จูมงในหนัง)
ดินแดนที่ตั้งประเทศเกาหลีในปัจจุบัน เป็นการรวมตัวของชนเผ่าต่างๆ จนเกิดเป็นสามอาณาจักรใหญ่ คือ อาณาจักรโกคูรยอ ซึ่งอยู่ทางเหนือ อาณาจักรแพกเจ และ อาณาจักรชิลลา ซึ่ง อาณาจักรโกคูรยอ แม้จะเป็นอาณาจักรที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด แต่เนื่องจากภูมิประเทศแห้งแล้ง ไม่เหมาะกับการพัฒนาประเทศ และมีสงครามกับอาณาจักรข้างเคียงบ่อยครั้ง ทำให้อำนาจเริ่มเสื่อมลง เทียบจากแผนที่อาณาจักรโกคูรยอจะกินพื้นที่จีนปัจจุบันเล็กน้อย และเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาหลีเหนือในปัจจุบัน

ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของอาณาจักรเกาหลีมักจะมีการแย่งชิงอำนาจบ่อยครั้ง และไม่สามารถรวมชนชาติได้อย่างแท้จริง ลักษณะเป็นเหมือนหากอาณาจักรใดมีอำนาจก็เป็นใหญ่ โดยเคยถูกยึดอำนาจโดยราชวงศ์หยวนของจีน และท้ายสุดในราชวงศ์โชซอน ประเทศเกาหลีได้ขัดแย้งกับประเทศตวันตก และขัดแย้งกันระหว่างขุนนาง ทำให้ญี่ปุ่นที่เริ่มประเป็นประเทศที่มหาอำนาจในเอเชียประเทศหนึ่งในสมัย นั้นเข้ายึดครอง ใน ค.ศ. 1910 และล้มล้งระบบกษัตริย์ลง

ด้านภูมิประเทศ
ด้านภูมิประเทศก็เป็นส่วนสำคัญที่อาจทำให้ 2 ประเทศนี้แยกกันด้วย ประเทศเกาหลีเหนือภูมิประเทศส่วนใหญ่ติดกับทางจีน และบางส่วนติดกับสหภาพโซเวียต(ในสมัยนั้น) ซึ่งเป็นเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ และมหาอำนาจก่อนช่วงสงครามโลก ส่วนเกาหลีใต้แม้ประเทศไม่ติดกับญี่ปุ่นที่เป็นเกาะ แต่ก็อยู่ใกล้กัน ซึ่งในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2(ภายหลังก็อยู่ในส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย) ญี่ปุ่นได้ทำการเข้าโจมตีจีน ทำให้พื้นที่ประเทศเกาหลีสำคัญต่อทั้ง 2 ประเทศ กล่าวคือ เป็นประตูสู่ประเทศจีน และด้วยที่เกาหลีต้องการหลบหนีจากอิทธิพลของญี่ปุ่น จึงไปพึ่งจีนซึ่งมีพื้นที่ติดกัน


สาเหตุที่แยกเป็น 2 ประเทศ
จากสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากประเทศญี่ปุ่นไปโจมตีประเทศอเมริกา ทำให้อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และโจมตีประเทศญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นต้องแพ้สงครามในที่สุด ญี่ปุ่นต้องทำการปลดอาวุธ และเกาหลีที่ญี่ปุ่นยึดครองอยู่นั้น ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถยึดครองได้ต่อไป แต่อย่างไรก็ดีพื้นที่ประเทศเกาหลีกลับเป็นที่ต้องการในการจัดการของ 4 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต อังกฤษ และจีน โดยอเมริกาได้เข้าดูแลทางตอนใต้ของเกาหลี เพราะติดกับญี่ปุ่น(ซึ่งตอนนั้นญี่ปุ่นแม้จะรุกรานประเทศอื่น แต่ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยเช่นเดียวกับอเมริกา) และทางโซเวียตปกครองด้านเหนือของเกาหลี โดยโซเวียตต้องการให้เกาหลีปกครองประเทศด้วยระบอบคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกับตน ส่วนอเมริกาต้องการให้เกาหลีปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และด้วยความแตกต่างนี้เองทำให้ตกลงยังไม่ได้ต่างฝ่ายต่างควบคุมประเทศเกาหลี แยกกันด้วยโดยใช้เส้นขนานที่ 38 องศาเป็นเส้นแบ่ง (เส้นแบ่งประเทศในปัจจุบัน) ซึ่งแต่เดิมเป็นการควบคุมประเทศโดยชั่วคราว โดยไม่มีความคิดจะแยกประเทศแต่อย่างใด

ด้วยที่อเมริกาไม่เห็นด้วยกับระบอบคอมมิวนิสต์ จึงต้องการที่จะยกเลิกระบอบนี้ให้ได้ จึงยังควบคุมประเทศเกาหลีทางใต้อยู่เพื่อต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ และยังไม่สามารถทำให้โซเวียตออกไปจากเกาหลีทางเหนือได้ ทางอเมริกาจึงส่งให้ประชาชาติรับรองความเป็นประเทศของเกาหลีใต้เพียงส่วน เดียว ทำให้เกิดแยกเป็น 2 ประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ จึงอาจพูดได้ว่าการแยกประเทศนี้อเมริกามีส่วนสำคัญอยู่ทีเดียว

ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 เกาหลีเหนือที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ได้ส่งทหารข้ามเส้นแบ่งมาที่กรุงโซล เพื่อที่จะรวมประเทศ ด้วยอาวุธจากโซเวียต(บางที่ก็ว่าเป็นทหารของโซเวียตด้วย) ทำให้สหประชาชาชาติมีมติช่วยเกาหลีใต้ นำโดยอเมริกาและอีก 15 ประเทศ(รวมทั้งไทยด้วย) จนกระทั่งเกาหลีเหนือถอยร่นกลับไปที่เส้นแบ่ง 38 เช่นเดิม จนในกระทั่งได้ทำสัญญาสงบศึกต่อกัน โดยมีเขตปลอดทหารแบ่งเกาหลีเหนือและใต้ กว้าง 4 กิโลเมตร แต่ว่าเกินจากนั้นมีข้อมูลว่าต่างฝ่ายได้วางกำลังไว้แน่นหนา

การปกครองของประเทศเกาหลีเหนือ
ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ เน้นการพึงพาตัวเอง ตามแนวทางของสหภาพโซเวียต โดยเมื่อเกาหลีใต้ตั้งเป็นประเทศตามมติของสหประชาชาติ เกาหลีเหนือก็ทำการตั้งรัฐบาลประเทศเช่นกัน(ปี พ.ศ. 2491) มีประธานาธิบดี คนแรกคือ นาย คิม อิล ซุง ปกครองประเทศจนจนถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ. 2537 แล้วบุตรชาย คิม จอง อิล ได้ดำรงตำแหน่งสืบมา และปัจจุบันบุตรชายของนาย คิม จอง อิล ได้แต่งตั้งนายคิม จอง อุน บุตรชายคนที่ 3 ขึ้นเป็นนายพล ซึ่งทำให้หลายฝ่ายคิดว่าเป็นการวางทายาทเพื่อสืบทอดอำนาจ

การปกครองของประเทศเกาหลีใต้
ในขณะนี้เกาหลีปกครองโดยมีประธานาธิปบดีเป็น ประมุขของประเทศ มาจากการเลือกตั้ง มีวาระครั้งละ 5 ปี โดยมีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเป็นฝ่ายบริหาร และนอกจากนั้นเกาหลีใต้บางส่วนยังมีความคิดที่จะฟื้นฟูสถาบันจักรพรรดิขึ้น มาอีกครั้ง หลังจากต้องถูกยกเลิกจากญี่ปุ่น โดยขณะนี้เจ้าชายวอน ได้ทรงสถาปนาพระองค์เองขึ้นดำรงพระยศเป็นประมุขแห่งราชตระกูลจักรพรรดิ เกาหลี (ราชวงศ์โชซอน) แต่อย่างไรก็ดีสัญลักษณ์จักรพรรดิเป็นสัญลักษณ์การปกครองประเทศเกาหลีทั้ง ประเทศ ดังนั้น เมื่อ 2 เกาหลีรวมประเทศเป็นหนึ่งอีกครั้ง อาจได้เห็นสถาบันจักรพรรดิเป็นประมุขแห่งเกาหลีอีกครั้งก็ได้

บทสรุป
การที่เกาหลีแยกประเทศและบาดหมางกันนั้น ในตอนเริ่มต้นมาจากการแทรกแซงของประเทศอื่น แต่จะไม่ลงลึกหากประชาชนของทั้ง 2 ประเทศไม่บาดหมางต่อกัน อนาคตเราอาจได้เห็นเกาหลีรวมประเทศกันก็ได้หลังจากต้องตกเป็นผู้ทำสงครามตัว แทนจากประเทศ และระบอบการปกครอง

Apple Girl Band (Thailand)

สาวๆ apple น่ารัก

The 2010 National Geographic Photo Contest

1. Appreciate Life

2. Unsafe Journey

3.Aviation Boatswains Mate

4. Brown Bear

5.Dolphin alert

6. Walk Along River Bank

7. Haunting Glimpse

8. Lightning Strike NY Harbor

9. Serra da Leba Road near Lubango

10. People believe that death was start

11. Giraffes at Savannah

12. The Look

13. Supercell Thunderstrom Rolls at sunset

Thanks to Yahoo.com

มนุษย์เงินเดือนไร้รัก

"มนุษย์เงินเดือนไร้รัก" มันชั่งเข้ากับตอนนี้เหลือเกิน 555+

Size does not matter. Really?

I found this from webboard. Just share it to you guy!

ภาพภูเขาไฟ Eyjafjallajokull ระเบิดใน Iceland

เข้าไปดูในลิงค์ด้านล่างเลย
v
v
http://www.boston.com/bigpicture/2010/04/more_from_eyjafjallajokull.html

เริ่มด้วยระบบ Twinblade 5min

จากที่ทดลองเทรดมาระยะหนึ่ง ลองมาหลายระบบ โดยระบบที่ทดลองส่วนใหญ่มักจะเป็นระบบที่ใช้ักับ Timeframe 15 minute ขึ้นไป ไม่เปิดใจยอมรับระบบที่เทรดบน Timeframe เล็กๆแบบ 5 minute เนื่องจากคิดว่า Timeframe เล็ก มันจะบอก Trend ได้หรือวะ แต่ด้วยเหตุที่เราทุนน้อย จึงสรุปได้ว่า Timeframe ใหญ่ไม่เหมาะกับคนทุนน้อยจริง อย่างน้อยๆก็ควรจะ $1,000 ขึ้นไป

คราวนี้ขอเปิดใจเล่นกับระบบ 5 minute ที่มีชื่อว่า Twinblade เอาไว้เล่นสั้นๆ 10-20 pips
ระบบนี้ได้นำใช้ indicator 3 ตัวในการบอกเทรน ได้แก่
iTrend
Traders Dynamic Index
Heiken Ashi
ใ้ช้เล่นในช่วง Euro session เปิดแล้วเท่านั้น คือประมาณ 14.00 น. เป็นต้นไป
ถ้าจะใช้เทรด GBP ด้วย ให้รอ London เปิดก่อน

วันนี้ทดสอบวันแรกในช่วง Euro session
เก็บมาได้ 7 pips

เก็บได้อีก 8 pips ในช่วงตลาด US เปิด

สรุปทดสอบวันแรกด้วยเงินจริงได้ไป 15 pips

Acceleration / Deceleration Oscillator (AC)

Acceleration / Deceleration Oscillator (AC) measures the current momentum speed. This is the first place where changes become visible, then the momentum (AO) changes and then price changes.

Acceleration / Deceleration Oscillator (AC) is usually shown as a histogram measuring the difference between 5/34 momentum histogram (Awesome Oscillator) and a 5-bar simple moving average on the Awesome Oscillator.


Unlike the Awesome Oscillator, Acceleration / Deceleration Oscillator (AC) do not create a signal when crossing zero line. However, we still never buy if a histogram bar is red and never sell if bar is green.




Buy above the zero line / sell below the zero line


A buy above the zero line signal is generated when there are two consecutive green histogram bars (a green histogram bar is a bar whose high is higher than the preceding bar's high):


The historgam is above the zero line. Place a Buy Stop one tick above the high of the price bar that corresponds to the second highest high (“c”).

A sell below the zero line signal is generated when there are two consecutive red histogram bars (a red histogram bar is the bar whose low is lower than the preceding bar's low). The historgam is below the zero line. Place a Sell Stop one tick below the low of the price bar that corresponds to the second lowest low (“c”).

Buy below the zero line / sell above the zero line

If the histogram is below the zero line, a buy signal is generated when there are three consecutive green histogram bars. Place a Buy Stop one tick above the high of the price bar that corresponds to the third highest high (“d”).

If the histogram is above the zero line , a sell signal is generated when there are three consecutive red histogram bars:


Place a Sell Stop one tick below the low of the price bar that corresponds to the third lowest low on the histogram (“d”).

If histogram “b” or “c” bar crosses the zero line, then histogram “c” bar becomes a signal bar, and there is no need to wait for the “d” bar to occur.


Important:
No matter what signal is created you:

• must ignore it until the first fractal buy or sell signal is triggered outside the Alligator's mouth.
• ignore signals that are not in the same direction as the first signal from fractal.

If Acceleration / Deceleration Oscillator generates a signal but the histogram changes its colour before the pending order is executed, then the signal has to be ignored and the order has to be deleted.

Awesome Oscillator (AO)

Awesome Oscillator (AO) is simply the difference between the 34-period and 5-period simple moving averages of the bar's midpoints (H+L)/2.

It determines market momentum at a given time comparing the last 5 bars to the last 34 bars.

Awesome Oscillator (AO) is displayed on the chart as a histogram:

Awesome Oscillator generates three buy signals and three sell signals, but we do not use them until the first fractal buy or sell signal is triggered outside the Alligator's mouth.

---

First signal

Awesome Oscillator Saucer buy signal is generated when the histogram which is above the zero line changes its direction from down move to up move.

Histogram “a” bar, of any color, should be higher than histogram “b” bar. Histogram “b” bar must be red. Histogram “b” bar (signal) must be green.

Once the signal has been generated, place a Buy Stop one tick above the high of the price bar that corresponds to the histogram “c” bar.

The most recent saucer signal cancels all previous ones (do not forget to delete pending orders after the signal is cancelled). Bear in mind that we buy only if the current histogram bar is green and we sell only if the current histogram bar is red.

Awesome Oscillator Saucer sell signal is the opposite of the Awesome Oscillator Saucer buy signal.

---

Second signal

A buy (sell) signal is generated when the histogram crosses the zero line from negative to positive territory:

Place a Buy Stop (Sell Stop) one tick above the high of the price bar (below the low of the price bar) that corresponds to the first bar that crosses the zero line.

If there is a buy signal, histogram “b” bar (a signal one) is green, if there is a sell signal it is red.

---

Third signal

... is called the Twin Peaks buy (sell) signal. It is generated when the histogram is lower (higher) than the zero line, and the last indicator's bottom is higher (last indicator's top is lower) than the preceding one. Between these two bottoms (tops) the histogram can never be higher (lower) than zero:

The Twin Peaks buy signal is the only buy signal that is created below the zero line. Similarly, the Twin Peaks sell signal is the only sell signal that is created above the zero line.

Place a Buy Stop (Sell Stop) one tick higher than the top (lower than the bottom) of the signal bar. In the case of a buy signal, histogram “C” bar (a signal one) is always green, otherwise it is red.

Never buy on a red histogram bar and never sell on a green one. If an “unfriendly” histogram bar occurs before the execution of a pending order, which was placed in the direction of the Awesome Oscillator signal, the signal has to be ignored and the order has to be deleted.