2554/04/21

เทคนิคดู price action ดีๆ

1. คือเจ้า Candle เมื่อใหร่ เกิด โดจิ มหัศจรรย์ เมื่อนั้น ตัวเต็ง มา อันดับหนึ่งแต่ต้อง เกิดขึ้น ที่ ขึ้นต่ำ 4 Hr. or Day จะได้เก็บกินยาวๆ หน่อย
2. คือเจ้า Para เมื่อ ใหร่ ดวงดาว ยืนยัน การเปลี่ยนทิศ ทาง ตาม โดจิ ถ้าขาขึ้น ก็ ต้องเห็นดาว อยู่ล่าง ถ้าขาลง ดาวก็ ต้อง อยู่ บน
3. Bollinger ลำตัวของแท่งเทียน ต้อง ไม่อยู่นอกกรอบ
4. Stochastic Slow อยู่เขต Over B or S หรือ ตัดกัน กลับทางรออยู่แล้ว
5. Candle แท่งต่อ จาก โดจิ มหัศจรรย์ ยืนยัน ราคา Low ของแท่งนั้น สูงกว่าราคา Low ของ โดจิ มหัศจรรย์
เมื่อ นั้น ราคาใหน ก็ได้ ตังค์ เก็บ ยาว ๆ ขึ้นต่ำ 100 p - 350 p.
ใน หนึ่งเดือน จะเกิดสํก สองครั้ง ก็ เพียง พอ งาน สบาย ๆ
ไม่ชอบ เข้าบ่อย ๆ นาน ๆ เข้าไปที แต่ ได้ตังค์ ชัวร์ ดีกว่า อุ๊บ อย่าลืม ดู Week ด้วยนะ ว่า เทรน ไปทางใหน

source: กระทู้หนึ่งใน thailandinvestorclub.com

2554/03/31

Price Action Setup by Nail Fuller

My 3 core Price Action Setups: Pin Bar, Fakey, Inside Bar

Pin Bar Setup:

The pin bar is a staple of the way I trade the forex market. It has a very high accuracy rate in trending markets and especially when occurring at a confluent level. Pin bars occurring at important support and resistance levels are generally very accurate setups. Pin bars can be taken counter trend as well, as long as they are very well defined and protrude significantly from the surrounding price bars; indicating a strong rejection has occurred. In the following chart example we will take a look at pin bars occurring with the context of a trending market, my favorite way to trade them. Notice how each pin bar resulted in movement that met or exceeded the next logical resistance point, marked on the chart as “target”

Pin bars occurring within the context of a trending market on the GBP/JPY daily chart:

gbpjpy

Fakey Setup:

The fakey setup is another bread and butter price action setup. It indicates rejection of an important level within the market. The forex market is designed to fake traders out, as often times the market will appear to be headed one direction and then reverse, sucking all the amateurs in as the professionals push price back in the opposite direction. The fakey setup can set off some pretty big moves in the forex market. The chart we will look at below shows a fakey that occurred in the EUR/USD market that set off a huge down ward movement.

Nice fakey setup that occurred at a major turning point on EUR/USD daily:

eurusd3

Inside Bar Setup:

The inside bar is a great trend continuation signal. It shows a brief consolidation and then a break out in the dominant trend direction. Inside bars are best played on daily and weekly charts. They allow for very small risks and yet very large rewards. The inside bar setup combined with a very strongly trending market is one of my favorite price action setups. We can see in the chart below an inside bar that formed on daily USD/JPY after a strong pin bar signal changed trend direction. This inside bar occurred at a 50% retrace level as well as a support level, whenever we get price action at a confluent level like this it is viewed as a very strong setup.

Inside bar setup on daily USD/JPY:

usdjpy11

Further explanations of price action trading and forex trading instruction can be found in my forex trading course which comes with life-time access to our member’s forum that includes on-going trade setups and daily analysis of the major currency pairs as well as any relevant price action setups. Once you master a few solid price action setups you will be well on your way to becoming a more confident and profitable trader, but remember, mastering these setups will require passion, dedication and discipline.

Copywrite – Learn To Trade The Market Author Nial Fuller

2554/03/09

10 กฎเหล็กในการใช้ Technical Analysis
- John J. Murphy

ใคร รู้จัก John J. Murphy บ้างไหมครับ? เขาคือนักวิเคราะห์เทคนิคคนหนึ่งของ Wallstreet เขียนตำราอ่านเทคนิคขั้นเทพไว้ John J. Murphy นี่เขาได้รับการยอมรับว่าเป็น "the father of inter-market technical analysis" เชียวนะครับ เขาเคยเขียนหนังสือเรื่อง "Technical Analysis of the Financial Markets" ไว้ หนังสือดังกล่าวได้รับการยอมรับในวงการเทคนิค และใช้เป็นตำราเบื้องต้นกันอย่างกว้างขวาง หนังสือเล่มนี้ได้ระบุ กฎเหล็ก 10 ข้อ สำหรับการใช้ Technical Analysis มาเป็นกลยุทธ์ในการลงทุน มีอะไรบ้าง ตามมาเลยครับ

1. Map the Trends :: พยายามเริ่มศึกษากราฟจากมุมมองระยะยาวโดยใช้ Monthly หรือ Weekly Charts และดูยาวๆไปหลายๆปี เพื่อให้เห็นภาพกว้างๆ เมื่อได้ภาพใหญ่ในหัว ค่อยย่อมาดูกราฟ Daily หรือ Intra-day Charts ซึ่งควรให้น้ำหนักการเทรดในทิศทางเดียวกันกับ Weekly และ Monthly Charts สมมตินะครับ กราฟระดับ Week บอกเราว่า ตลาดหุ้นปัจจุบันยังเป็นเทรนขาขึ้น ในการเทรดระยะสั้นโดยกราฟ Intraday อยู่ฝั่งซื้อ จะได้เปรียบกว่าฝั่งขาย

2. Spot the Trend and Go With It :: เมื่อได้เทรนใหญ่ สิ่งที่สำคัญคือ Follow The Trend จง Buy on Dips ถ้าเทรนเป็นขาขึ้น และ จง Sell on Strength ถ้าตลาดอยู่ในขาลง ถ้าเทรดระยะกลางให้ใช้ Weekly กับ Daily Charts ถ้าเป็น daytrade ให้ใช้ Daily กับ Intra-Day ไม่ว่าจะเทรดจะระยะกลาง หรือเทรดระยะสั้น ให้ใช้ Charts ที่ระยะยาวกว่า เป็นเทรนหลักในการเทรดช่วงนั้น ยกตัวอย่างเช่น พรุ่งนี้จะ daytrade กับ S50M11 ซักหน่อย ก็ใช้ Daily Charts ดูเทรนหลักว่าเป็นขึ้นหรือลง ลกยุทธ์ของวันพรุ่งนี้ ก็ให้น้ำหนักตามเทรนหลัก ครับ

3. Find the Low and High of It :: พูดง่ายๆก็คือ การหาแนวรับแนวต้านนั้นเอง ที่ๆเหมาะที่สุดในการซื้อก็ถือ แถวๆแนวรับ (Support Level) ส่วนที่ๆเหมาะกับขายที่สุดก็คือ แถวๆแนวต้าน (Resistant Level) คราวนี้ มันก็จะมีกรณีที่เกิดการ Breakout ขึ้นมา ไม่ว่าจะแนวรับหรือแนวต้าน ถ้าเจอ Breakout ก็ให้ตั้งสมมติฐานว่า เทรนหลักที่เราเคยมองไว้ อาจถึงช่วงกลับทิศ แต่ทั้งนี้ บางครั้ง แนวรับ แนวต้าน อาจมีมากกว่า 1 แนว จึงต้องย้อนกลับไปดูกฎข้อแรกที่ให้เรา Map the Trends ด้วยการดูภาพใหญ่ให้ชัด หากหลุดแนวรับหรือแนวต้าน แต่เทรนหลักไม่เสีย ก็ทำตามระบบเดิม

4. Know How Far to Backtrack :: วัดหาระดับของการ Pullback หรือการ Rebound เพราะให้ตลาดขาขึ้นจริง 100% มันก็ไม่มีทางขึ้นอย่างเดียวไปจนจบรอบ ตลาดขาลง ก็ไม่มีทางจะลงรวดเดียวไปจนจบรอบเช่นเดียวกัน ระหว่างทางจะมีการแกว่งตัว ดังนั้นการหา % ของการแกว่งตัว ก็เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ Murphy แนะนำให้ใช้ Golden Ratio Fibonacci Retracement 38.2% และ 61.8% และ 50% ในการหาแนวรับ และแนวต้าน โดย Maximum Retracement จะอยู่ที่ 61.8% หากการเด้งขึ้น หรือ ลง แรงกว่าสัดส่วนนี้ ให้สมมติฐานว่า เทรนหลักอาจกำลังเปลี่ยนไป

5. Draw the Line :: ที่เราเรียกกันว่า Trendline นั้นเองครับ นักเทคนิคไม่ใช่เพียง Murphy ยอมรับว่า เป็นเครื่องมือที่ง่ายที่สุด และแม่นที่สุด แต่ Murphy เชื่อว่า ตลาดหุ้นมีแค่ 2 เทรน นั้นก็คือ Uptrend และ Downtrend (ไม่มี Sideway) ส่วนที่เราเห็นตลาด Sideway เป็นเพราะเราลืมมองภาพใหญ่ (กราฟ Weekly หรือ Monthly) ซึ่ง Murphy ก็บอกไว้ตั้งแต่กฏข้อแรกแล้วว่า ให้ดูก่อน Smiley

6.Follow that Average :: นั้นก็คือ การใช้เส้นค่าเฉลี่ย Moving Average ระยะสั้น กับระยะยาว ตัดกันให้เป็น Buy or Sell Signal เส้นค่าเฉลี่ยที่แนะนำก็คือ 4,9 หรือ 9,18 หรือไม่ก็ 5,20 ถ้าเส้น MA ระยะสั้นตัดระยะยาวขึ้น ก็เป็น Buy Signal ถ้ากลับทาง ก็เป็น Sell Signal (แต่ส่วนตัว ผมไม่เคยใช้เส้นที่ Murphy แนะนำเลยนะ รู้สึกมันให้ False Signal บ่อยเกินไป)

7. Learn the Turns :: ใช้ Oscillators ในการหาภาวะที่ตลาดกำลัง Overbought หรือ Oversold เพื่อเป็นการเตือนถึงจุดกลับทิศทางของตลาดก่อนล่วงหน้า Oscillators ที่นิยมให้กันก็คือ RSI โดยถ้า RSI>70 ก็ Overbought เตรียมลง , ส่วน RSI<30 ก็ Oversold เตรียมขึ้น การเกิด Divergence ใน Oscillators สามารถให้ความแม่นยำให้จุดกลับตัวของตลาดได้ค่อนข้างสูง (ตัวอย่างมีให้เห็นมาตลอด ผมก็ได้เงินจากมันมาเยอะ)

8. Know the Warning Signs :: ต้องรู้ก่อนว่าตลาดจะกำลังให้สัญญาณให้อนาคต เพื่อการเฝ้าระวัง (ไม่ตกรถ ไม่ติดดอย หุหุ) ยกตัวอย่างเช่นการใช้ MACD เพื่อดู Signal โดย Murphy แนะนำให้ดู Histogram ด้วย เพราะแท่ง Histogram เอาไว้บอกความแตกต่างระหว่างเส้น MA 2 เส้น ยิ่ง Histogram สูง แสดงว่า MA ทั้งสองเส้นต่างกันมากเกินไป โดยปกติจะกลับเข้ามาใกล้กันในที่สุด ทำให้ Histogram บอกเราได้ว่า เทรนเป็นยังไง

9. Trend or Not a Trend :: ในช่วงการเทรด มันจะมีบ้างช่วงเป็นธรรมดาที่เราอ่านเทรนหลักไม่ออก ให้ใช้ ADX (Average Directional Movement Index) ถ้า ADX ชันขึ้น แสดงว่าเทรนที่เราเห็นในขณะนั้น มีความแข็งแรงดี (ไม่ว่าจะเป็นเทรนขึ้นเทรนลง) แต่ถ้า ADX อ่อนตัวลง หรือต่ำกว่า 20 ลงไป แสดงว่าเทรนที่เราเห็นยังไม่แข็งแรง หรือเป็น Sideway นั้นเอง >> แล้วทำยังไง? ถ้า ADX แข็งแรง การใช้ Moving Average ตัดกันเพื่อ Buy Signal จะให้ความแม่นยำกว่า Oscillator แต่ถ้า ADX บอกว่าไม่มีเทรน หรือเทรนไม่แข็งแรง การใช้ Oscillator (RSI, Stochastic) มาเทรด จะให้ความแม่นยำมากกว่า
การดู ADX นี่จำเป็นนะครับ ใครไม่รู้เครื่องมือตัวนี้ ใช้แต่ RSI พอตลาดมีเทรนขาขึ้นแรงๆ RSI วิ่งไป Overbought เป็นเดือนๆ ขายหมูกันหมด กลับกัน ลองคิดดูหากตลาดเป็น Bear ลงยาวๆ RSI บอก Oversold เป็นเดือนๆเหมือนกัน เราก็ซื้อจนหมดหน้าตัก มันก็ยังลงไม่หยุด ต้องระวัง

10. Know the Confirming Signs :: เราจะรู้ได้ไงว่า ไอ้ที่เรา Action ไป มันถูกหรือมันผิด? Murphy บอก ดูที่ "Volume" สัญญาณซื้อหรือขายที่เกิดขึ้นไปแล้ว มักจะมาพร้อมๆกับ Volume หรือไม่ก็ Volume จะตามหลังมาจากให้สัญญาณไม่นาน ตย. สำหรับกฏข้อสุดท้ายนี้ เพิ่งเกิดกับ SET Index ในสองวันที่ผ่านมาเลยครับ วันที่ Break 1,000 จุดมา มูลค่าการซื้อขายยัง 2 หมื่น ลบ.ต้นๆ วันนี้บวกต่อพร้อม Volume ทะลักไป 4 หมื่น ลบ. ใครรอ Volume หายไป 10 กว่าจุด น่าสงสาร >.<
จะเห็นว่ากฎทั้ง 10 ข้อ ของ Murphy ส่วนใหญ่เป็นอะไรที่ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนเกินไป แต่ปัญหาคือ เรามักจะลืมมันไปก็แค่นั้นนะ

สุดท้ายขอฝาก Quote ของเขาไว้หน่อย

"Technical analysis is a skill that improves with experience and study. Always be a student and keep learning"
- John J. Murphy