PMPZ's Idea Blog: พฤศจิกายน 2010

Black Friday is the day following Thanksgiving Day in the United States, traditionally the beginning of the Christmas shopping season. Especially popular in the United States, the event is spreading to other nations such as Canada and Australia. On this day, many retailers open very early, often at 4 a.m., or earlier, and offer promotional sales to kick off the shopping season. Black Friday is not actually a holiday, but many employers give their employees the day off, increasing the number of potential shoppers. It has routinely been the busiest shopping day of the year since 2005,^[1] although news reports, which at that time were inaccurate,^[2] have described it as the busiest shopping day of the year for a much longer period of time.^[3]

The day's name originated in Philadelphia, where it originally was used to describe the heavy and disruptive pedestrian and vehicle traffic which would occur on the day after Thanksgiving. Use of the term began by 1966 and began to see broader use outside Philadelphia around 1975. Later an alternative explanation began to be offered: that "Black Friday" indicates the period during which retailers are turning a profit, or "in the black."^[4]

Because Thanksgiving always falls on the fourth Thursday in November in the United States, the day after occurs between the 23rd and the 29th of November.

Source: Wikipedia.com

วันนี้เล่นเว็ปไปเรื่อยๆ เจอประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับการแยกระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ มาดูกันเลยครับ

เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยชนเผ่า(สมัยมูยุล จูมงในหนัง)
ดินแดนที่ตั้งประเทศเกาหลีในปัจจุบัน เป็นการรวมตัวของชนเผ่าต่างๆ จนเกิดเป็นสามอาณาจักรใหญ่ คือ อาณาจักรโกคูรยอ ซึ่งอยู่ทางเหนือ อาณาจักรแพกเจ และ อาณาจักรชิลลา ซึ่ง อาณาจักรโกคูรยอ แม้จะเป็นอาณาจักรที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด แต่เนื่องจากภูมิประเทศแห้งแล้ง ไม่เหมาะกับการพัฒนาประเทศ และมีสงครามกับอาณาจักรข้างเคียงบ่อยครั้ง ทำให้อำนาจเริ่มเสื่อมลง เทียบจากแผนที่อาณาจักรโกคูรยอจะกินพื้นที่จีนปัจจุบันเล็กน้อย และเป็นพื้นที่ส่วนใหญ่ของเกาหลีเหนือในปัจจุบัน

ประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่ของอาณาจักรเกาหลีมักจะมีการแย่งชิงอำนาจบ่อยครั้ง และไม่สามารถรวมชนชาติได้อย่างแท้จริง ลักษณะเป็นเหมือนหากอาณาจักรใดมีอำนาจก็เป็นใหญ่ โดยเคยถูกยึดอำนาจโดยราชวงศ์หยวนของจีน และท้ายสุดในราชวงศ์โชซอน ประเทศเกาหลีได้ขัดแย้งกับประเทศตวันตก และขัดแย้งกันระหว่างขุนนาง ทำให้ญี่ปุ่นที่เริ่มประเป็นประเทศที่มหาอำนาจในเอเชียประเทศหนึ่งในสมัย นั้นเข้ายึดครอง ใน ค.ศ. 1910 และล้มล้งระบบกษัตริย์ลง

ด้านภูมิประเทศ
ด้านภูมิประเทศก็เป็นส่วนสำคัญที่อาจทำให้ 2 ประเทศนี้แยกกันด้วย ประเทศเกาหลีเหนือภูมิประเทศส่วนใหญ่ติดกับทางจีน และบางส่วนติดกับสหภาพโซเวียต(ในสมัยนั้น) ซึ่งเป็นเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ และมหาอำนาจก่อนช่วงสงครามโลก ส่วนเกาหลีใต้แม้ประเทศไม่ติดกับญี่ปุ่นที่เป็นเกาะ แต่ก็อยู่ใกล้กัน ซึ่งในสมัยก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2(ภายหลังก็อยู่ในส่วนหนึ่งของสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย) ญี่ปุ่นได้ทำการเข้าโจมตีจีน ทำให้พื้นที่ประเทศเกาหลีสำคัญต่อทั้ง 2 ประเทศ กล่าวคือ เป็นประตูสู่ประเทศจีน และด้วยที่เกาหลีต้องการหลบหนีจากอิทธิพลของญี่ปุ่น จึงไปพึ่งจีนซึ่งมีพื้นที่ติดกัน

สาเหตุที่แยกเป็น 2 ประเทศ
จากสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังจากประเทศญี่ปุ่นไปโจมตีประเทศอเมริกา ทำให้อเมริกาต้องเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 และโจมตีประเทศญี่ปุ่น ทำให้ญี่ปุ่นต้องแพ้สงครามในที่สุด ญี่ปุ่นต้องทำการปลดอาวุธ และเกาหลีที่ญี่ปุ่นยึดครองอยู่นั้น ทำให้ญี่ปุ่นไม่สามารถยึดครองได้ต่อไป แต่อย่างไรก็ดีพื้นที่ประเทศเกาหลีกลับเป็นที่ต้องการในการจัดการของ 4 ประเทศ คือ สหรัฐอเมริกา สหภาพโซเวียต อังกฤษ และจีน โดยอเมริกาได้เข้าดูแลทางตอนใต้ของเกาหลี เพราะติดกับญี่ปุ่น(ซึ่งตอนนั้นญี่ปุ่นแม้จะรุกรานประเทศอื่น แต่ก็ปกครองระบอบประชาธิปไตยเช่นเดียวกับอเมริกา) และทางโซเวียตปกครองด้านเหนือของเกาหลี โดยโซเวียตต้องการให้เกาหลีปกครองประเทศด้วยระบอบคอมมิวนิสต์เช่นเดียวกับตน ส่วนอเมริกาต้องการให้เกาหลีปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย และด้วยความแตกต่างนี้เองทำให้ตกลงยังไม่ได้ต่างฝ่ายต่างควบคุมประเทศเกาหลี แยกกันด้วยโดยใช้เส้นขนานที่ 38 องศาเป็นเส้นแบ่ง (เส้นแบ่งประเทศในปัจจุบัน) ซึ่งแต่เดิมเป็นการควบคุมประเทศโดยชั่วคราว โดยไม่มีความคิดจะแยกประเทศแต่อย่างใด

ด้วยที่อเมริกาไม่เห็นด้วยกับระบอบคอมมิวนิสต์ จึงต้องการที่จะยกเลิกระบอบนี้ให้ได้ จึงยังควบคุมประเทศเกาหลีทางใต้อยู่เพื่อต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ และยังไม่สามารถทำให้โซเวียตออกไปจากเกาหลีทางเหนือได้ ทางอเมริกาจึงส่งให้ประชาชาติรับรองความเป็นประเทศของเกาหลีใต้เพียงส่วน เดียว ทำให้เกิดแยกเป็น 2 ประเทศเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ จึงอาจพูดได้ว่าการแยกประเทศนี้อเมริกามีส่วนสำคัญอยู่ทีเดียว

ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 เกาหลีเหนือที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ ได้ส่งทหารข้ามเส้นแบ่งมาที่กรุงโซล เพื่อที่จะรวมประเทศ ด้วยอาวุธจากโซเวียต(บางที่ก็ว่าเป็นทหารของโซเวียตด้วย) ทำให้สหประชาชาชาติมีมติช่วยเกาหลีใต้ นำโดยอเมริกาและอีก 15 ประเทศ(รวมทั้งไทยด้วย) จนกระทั่งเกาหลีเหนือถอยร่นกลับไปที่เส้นแบ่ง 38 เช่นเดิม จนในกระทั่งได้ทำสัญญาสงบศึกต่อกัน โดยมีเขตปลอดทหารแบ่งเกาหลีเหนือและใต้ กว้าง 4 กิโลเมตร แต่ว่าเกินจากนั้นมีข้อมูลว่าต่างฝ่ายได้วางกำลังไว้แน่นหนา

การปกครองของประเทศเกาหลีเหนือ
ปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ เน้นการพึงพาตัวเอง ตามแนวทางของสหภาพโซเวียต โดยเมื่อเกาหลีใต้ตั้งเป็นประเทศตามมติของสหประชาชาติ เกาหลีเหนือก็ทำการตั้งรัฐบาลประเทศเช่นกัน(ปี พ.ศ. 2491) มีประธานาธิบดี คนแรกคือ นาย คิม อิล ซุง ปกครองประเทศจนจนถึงแก่อสัญกรรมใน พ.ศ. 2537 แล้วบุตรชาย คิม จอง อิล ได้ดำรงตำแหน่งสืบมา และปัจจุบันบุตรชายของนาย คิม จอง อิล ได้แต่งตั้งนายคิม จอง อุน บุตรชายคนที่ 3 ขึ้นเป็นนายพล ซึ่งทำให้หลายฝ่ายคิดว่าเป็นการวางทายาทเพื่อสืบทอดอำนาจ

การปกครองของประเทศเกาหลีใต้
ในขณะนี้เกาหลีปกครองโดยมีประธานาธิปบดีเป็น ประมุขของประเทศ มาจากการเลือกตั้ง มีวาระครั้งละ 5 ปี โดยมีนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีเป็นฝ่ายบริหาร และนอกจากนั้นเกาหลีใต้บางส่วนยังมีความคิดที่จะฟื้นฟูสถาบันจักรพรรดิขึ้น มาอีกครั้ง หลังจากต้องถูกยกเลิกจากญี่ปุ่น โดยขณะนี้เจ้าชายวอน ได้ทรงสถาปนาพระองค์เองขึ้นดำรงพระยศเป็นประมุขแห่งราชตระกูลจักรพรรดิ เกาหลี (ราชวงศ์โชซอน) แต่อย่างไรก็ดีสัญลักษณ์จักรพรรดิเป็นสัญลักษณ์การปกครองประเทศเกาหลีทั้ง ประเทศ ดังนั้น เมื่อ 2 เกาหลีรวมประเทศเป็นหนึ่งอีกครั้ง อาจได้เห็นสถาบันจักรพรรดิเป็นประมุขแห่งเกาหลีอีกครั้งก็ได้

บทสรุป
การที่เกาหลีแยกประเทศและบาดหมางกันนั้น ในตอนเริ่มต้นมาจากการแทรกแซงของประเทศอื่น แต่จะไม่ลงลึกหากประชาชนของทั้ง 2 ประเทศไม่บาดหมางต่อกัน อนาคตเราอาจได้เห็นเกาหลีรวมประเทศกันก็ได้หลังจากต้องตกเป็นผู้ทำสงครามตัว แทนจากประเทศ และระบอบการปกครอง